กรุงเทพประกันชีวิต เปิดกลยุทธ์องค์กร ภายใต้ธีม ‘2025 The Year of Care’ |
![]() |
![]() |
![]() |
Wednesday, 09 April 2025 00:31 | |||
กรุงเทพประกันชีวิต แถลงนโยบายและทิศทางการดำเนินงานปี 2568 ต่อยอดความสำเร็จในปีที่ผ่านมาจากการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตซึ่งมาจากทุกช่องทาง ประกาศกลยุทธ์องค์กร 6Ps ภายใต้ธีม ‘2025 The Year of Care’ สานต่อวิสัยทัศน์การมุ่งสู่แบรนด์อันดับ 1 ในด้านความใส่ใจ มุ่งเน้นการสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้สังคมไทย นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมของธุรกิจประกันชีวิตในปี 2567 ว่า ยังสามารถเติบโตท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสความใส่ใจด้านสุขภาพ รวมทั้งความรู้ความเข้าใจเรื่องการประกันชีวิตและการวางแผนการเงินเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสังคมสูงวัยของภาคประชาชนที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของกรุงเทพประกันชีวิต ถือว่าประสบความสำเร็จจากการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตซึ่งมาจากทุกช่องทาง โดยมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 7,037 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% และเบี้ยประกันภัยรับรวม 34,837 ล้านบาท เติบโต 2% มีตัวแทนใหม่ 2,546 คน เพิ่มขึ้น 18% โดยมีตัวแทนที่ Active 7,360 คน เพิ่มขึ้น 6% และ มีผู้บริหารหน่วยที่สามารถสร้างผลงานได้เกินเป้า 200% เพิ่มขึ้นถึง 23% โดยแบบประกันที่ได้รับความสนใจและเติบโตได้อย่างโดดเด่น ได้แก่ แบบประกันสะสมทรัพย์ ประกันตลอดชีพ รวมทั้งสัญญาเพิ่มเติมต่าง ๆ โดยเฉพาะประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง นอกจากนี้ ยังได้รับคะแนนความพึงพอใจต่อการเคลม หรือ NPS Fax Claim 76% คะแนนความพึงพอใจศูนย์บริการลูกค้า Customer Service Center CSAT 95% และมีจำนวนผู้ใช้ Happy Life Application เพิ่มขึ้น 31% นายโชนกล่าวว่า ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าในผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการออมเงิน การคุ้มครองชีวิต และการเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ ถึงแม้จะมีการแข่งขันสูงแต่บริษัทฯ มุ่งเน้นในการนำเสนอความแตกต่างผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ รวมไปถึงการให้คำปรึกษาทางการเงินที่สอดคล้องกับเป้าหมายของลูกค้าด้วยความใส่ใจภายใต้การประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ในการเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในด้านความ “ใส่ใจ” หรือ The Most Caring Life Insurance Company ที่มุ่งเน้นการสร้าง DNA เรื่องใส่ใจให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กร ด้วยความเชื่อมั่นว่าความใส่ใจในความต้องการของลูกค้าและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดจะเป็นจุดแข็งสำคัญที่ช่วยให้กรุงเทพประกันชีวิตสามารถรักษาการเติบโตที่ยั่งยืน และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว “การสะท้อนความใส่ใจให้ออกมาเป็นการกระทำที่สัมผัสได้ของกรุงเทพประกันชีวิต ยังเป็นที่มาของการจัดตั้งโครงการ “ตามหากันจนเจอ” ที่มีทีมงานดูแล ติดตามลูกค้าเพื่อส่งมอบผลประโยชน์ตามสัญญา โดยการตามหาผู้รับประโยชน์เพื่อให้ ผู้เอาประกันได้รับเงินครบกำหนดได้ครบถ้วน โดยในช่วงเดือน เมษายนถึงตุลาคม 2567 สามารถติดตามมอบเงินผลประโยชน์ได้ 387 ราย คิดเป็นเงินกว่า 26 ล้านบาท และ ในปี 2568 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2568 มีจำนวน 10 ราย ยอดเงินกว่า 4 ล้านบาท รวมมอบผลประโยชน์แล้ว 493 ราย คิดเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท” นายโชนกล่าว สำหรับภาพรวมในปี 2568 ธุรกิจประกันชีวิตยังเผชิญกับความท้าทายทั้งทางเศรษฐกิจ และพฤติกรรม ความคาดหวังของผู้บริโภคที่มีความต้องการแตกต่าง ทำให้การออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ต้องผ่านการทำความเข้าใจแต่ละกลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง โดยกรุงเทพประกันชีวิต ยังคงมุ่งสร้างการเติบโตผ่านทุกช่องทาง โดยการทำงานกรุงเทพประกันชีวิตในปีนี้ จะให้ความสำคัญกับการสานต่อวิสัยทัศน์ใหม่ในเรื่องความ “ใส่ใจ” ภายใต้ธีม ‘2025 The Year of Care’ โดยมี 6 เสาหลักของการให้คำมั่นสัญญา (6Ps) เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนของสังคมไทย ประกอบด้วย Products, Professionals, Policy, Privileges, People และ Planet โดยทั้ง 6 P เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการบริหารธุรกิจประกันชีวิตอย่างยิ่ง จึงต้องมีการประสานความร่วมมือเพื่อให้การดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่เรื่องความใส่ใจประสบผลสำเร็จมากที่สุด นายโชน กล่าวต่อไปว่า ใน 6Ps เราได้ให้ความสำคัญทุกเรื่อง ตั้งแต่ P ตัวที่หนึ่ง คือ Product เราใส่ใจในการออกแบบสินค้าเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายชีวิตและสร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภคทั้งด้านความมั่นคง ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง และประกันบำนาญ โดยสินค้าประกันชีวิตของเราใส่ใจในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม P ตัวที่สอง คือ Professionals ปี 2025 จะเป็นปีที่เราเน้นเรื่องคุณภาพ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของช่องทางตัวแทน เน้นความเป็นมืออาชีพของตัวแทน ที่ปรึกษาทางการเงิน และ พนักงานขาย ทุกช่องทาง ด้วยการให้บริการ ดูแล ให้คำแนะนำสินค้าด้วยความใส่ใจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ลูกค้าเป็นสำคัญ ผ่านการสร้าง DNA “ใส่ใจ” และ นโยบาย SML ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง พร้อมขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ “อัดเต็มสปีดการสร้าง และพัฒนาทีมงานให้เติบโต” 2X Speed Recruitment & Development ในช่องทางตัวแทน โดยตั้งเป้าการสร้างตัวแทนใหม่ที่ 3,000 คน หรือเติบโตได้ 20% จากปี 2567 และ กลยุทธ์ “Total Solution” ที่สามารถตอบโจทย์ Life Goal ของลูกค้าในช่องทางธนาคารและพันธมิตร P ตัวที่สาม คือ Policy เป็นนโยบายที่จะยกระดับการให้บริการมาเป็นการส่งมอบประสบการณ์ที่ประทับใจ (Customer Experience) ประกอบไปด้วย 2C4S คือ การยึดลูกค้าเป็นสำคัญ (Customer Centric) ความสะดวกสบาย (Convenience) ความรวดเร็ว (Speed) ความสุภาพอ่อนน้อมและการรับฟังของทีมงาน (Staff Attitude) ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล (Secure) และ ความเชื่อมต่อกันในการให้บริหารในแต่ละจุด (Seamless) P ตัวที่สี่ คือ Privileges ซึ่งหมายถึง การให้สิ่งที่มากกว่าความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ไม่ว่าจะเป็นบริการเสริม BLA EveryCare ที่มุ่งเน้นด้านสุขภาพเช่น Driving Home, Home Health Care, Health Partner, Telemedicine รวมทั้ง Health Butler ที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมาเพื่อเข้ามาช่วยดูแลผู้สูงอายุในยามเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังมี สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ที่หลากหลายของลูกค้าและสร้างความแตกต่าง รวมถึงสิทธิประโยชน์และบริการเสริมที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น อาทิ กลุ่มแม่และเด็ก และ กลุ่มผู้สูงอายุ P ที่ห้า คือ People หมายถึง พนักงานทุกคนของเราที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้ธุรกิจของกรุงเทพประกันชีวิตให้เดินไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ ความใส่ใจพนักงานเพื่อให้มีความสุข (Happy Life) ใน 4 ด้านหลัก คือ Health, Wealth, Mind และ Lifestyle รวมถึง การ Upskill, Reskill เพื่อให้พนักงานสามารถพัฒนาให้เท่าทันกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันและอนาคต รวมถึงการถ่ายทอด DNA เรื่องความใส่ใจไปยังพนักงานผ่านการขับเคลื่อนค่านิยมองค์กร ได้แก่ C-A-R-E : Care, Assistance, Reliability และ Empathy ให้กลายเป็นวัฒนธรรมในการทำงาน เพื่อการบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้า ส่วน P สุดท้าย คือ Planet คือ ความใส่ใจเพื่อสร้างความยั่งยืนสู่สังคม สิ่งแวดล้อมที่คลอบคลุม ด้วยแนวทางการดำเนินงาน แบบ Happy P คือ Happy Place “บ้านมีสุข” โดยเป็นองค์กรที่ประกอบธุรกิจอย่างมีธรรมมาภิบาล ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติต่อพนักงาน คู่ค้า และพันธมิตรธุรกิจ Happy Peace “ใจมีสุข” สร้างความสุขสงบทางใจให้กับลูกค้าให้หมดห่วงต่อภาระทางการเงินที่จะเกิดขึ้น และ Happy People “เรามีสุข” ที่เน้นย้ำการส่งต่อความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม ด้วยการส่งเสริมการให้ความรู้ทางด้านการเงิน และการประกันชีวิต เพื่อเป็นกลไกหนึ่งของสังคมในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนทุกกลุ่ม “ถึงแม้จะมีความท้าทายต่ออุตสาหกรรมประกันชีวิตในปีนี้ เราเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ที่กล่าวมาจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ตามที่คาดไว้ ด้วยความแข็งแกร่ง และ ศักยภาพของทีมงาน ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินทุกคน รวมทั้งพันธมิตรที่จะร่วมกันสะท้อนการทำงานภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่และร่วมกันสร้างประสบการณ์ที่ดีที่มาจากความใส่ใจ และ บอกต่อความใส่ใจนี้ไปยังคนอื่น ๆ ในสังคม ส่งผลให้แบรนด์กรุงเทพประกันชีวิตเป็นที่จดจำ และก้าวสู่แบรนด์อันดับ 1 ในด้านความใส่ใจ” นายโชนกล่าวในที่สุด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it
|
![]() | Today | 1493 |
![]() | All days | 1493 |
Comments